วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552

[Review] skinfood peach sake line + laneige ขวดเขียว




ขวดๆ หน้าตาน่ารักพวกนี้ มันช่วยหยุดความมันขั้นเทพได้จ้า

         ดองไว้ตั้งนานแน่ะ พีชสาเกอ่ะ ตอนแรกไม่กล้าเอาออกมาใช้ กลัวจะแพ้อีก แหม สิวเพิ่งหายอ่ะ
เลยยังติดใจกับการปล่อยหน้าอ่ะ (เหอๆ เธอ ลองเป็นสิบครั้งแล้วนะ ยังจะกลัวแพ้อีก ประสาทกินป่่ะเนี่ย)


         ก็กะว่าเดือนหน้าค่อยใช้ตอนเปิดเทอม แบบว่ามันคุมมันได้อ่ะ ปรากฏว่าเราไปเที่ยวกลับมา ยังไม่ทันเปิดเทอม แพ้น้ำแล้วสิวแหกอ่ะ

         แหม ไม่น่าเลยๆ รักษาจนหายแล้ว ไปแค่สามวัน เจอน้ำต่างที่แล้วไม่ได้ดูแลผิวด้วย ไปกันหย่ายๆๆ

         ก็เลยเอามันมาใช้ทั้งเซ็ตเลยฮับ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มันกลับมาก็ช่างมัน รักษา(เอง)ได้อ่ะ
ขั้นตอนการใช้ 1. toner  2. serum  3. emulsion นะจ๊ะ


จากซ้ายไปขวานะคะ

Peach sake toner
          ไม่ได้แค่มีกลิ่นหอมชวนใช้อย่างเดียว ประสิทธิภาพก็เริ่ดค่ะ ตอนแรกกลัวหน้าจะแหก ใช้แต่โทนเนอร์ตัวเดียว  ต่างจากโทนเนอร์อื่นๆ เช็ดแล้วเย็นแต่อารมณ์แบบชุ่มชื้น แล้วก็หายไปกับหน้า แว้บๆๆ แห้งสนิทหายไปเลย  แค่ใช้แต่โทนเนอร์อย่างเดียวก็คุมมันได้เกือบๆ เที่ยงแล้วล่ะ

คะแนน สิบเต็มค่ะ ให้ไปเลย


Peach sake emulsion
          อีมัลชั่น เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวค่ะ ใช้แค่หยดเดียว เมื่อทาลงไปแล้ว เปลี่ยนเป็นน้ำๆ แล้วเคลือบผิว เวลาไปไหนหน้าไม่แห้งตึง ช่วยให้หน้ามันไม่ต้องผลิตน้ำมันอ่ะ ดีขึ้นๆๆ  ทากลางคืน เพิ่มเป็นสองหยดนะ ไม่ทาครีมอื่นซ้ำ ยังได้เลย ตื่นเช้ามา หน้ามันน้อยลงค่ะ

คะแนน สิบเต็มสิบอีกแล้วคร้าบท่าน

Peach sake pore serum
          ตัวนี้แหละตอบทุกปัญหาของเรา หน้ามัน รูขุมขนกว้าง คันหน้า หรือแอบมันแอบแห้ง  มันปรับสมดุลให้ผิวอ่ะ ใช้แล้ว ตอนแรกชุ่มชื้นอ่ะ แล้วก็เย็นหายไปกับหน้า เนื้อมันเป็นแป้งๆ ค่ะ  พอใช้เจ้าตัวนี้แล้ว ช่วยคุมมัน ดีเยี่ยม  ซับหน้าครั้งแรกตอนบ่ายโมงครึ่ง หลังมื้ออาหารเที่ยง

คะแนน อยากให้มากกว่าสิบเต็ม ใช้ไปเกือบอาทิตย์นึง รูขุมขนเริ่มแหกน้อยลง

          ใช้ทั้งเซ็ต สามวันเริ่มเห็นผลค่ะ ไม่มีอาการแพ้ให้เห็นอ่ะ (ถ้าแพ้อ่ะ เราออกตั้งแต่สองวันแรกแล้ว สิวมันจะบุกเพิ่ม)  สิวที่แหกออกมา มันก็เริ่มแห้ง แต่ทิ้งรอยไว้อ่ะ แอบคันๆ แดงๆ ช่างมัน ทำไงดี  ตอนแรกว่าจะทาน้ำมันมะพร้าวแล้ว แต่ช่วงนี้ยุ่ง กลับถึงบ้านดึกอ่ะเลยช่างมัน

          เราไปเรียนพิเศษวันศุกร์ที่แล้ว แล้วไปเดินเล่นที่พารากอนอ่ะ กะว่าจะไปสอย sleeping pack อ่ะ
ตัวนี้มันช่วยให้หน้าใสอ่ะ พอดีมาสก์โกโก้หมดอ่ะ ก็เลยไปซื้อลาเนจแทน เปลี่ยนบ้าง

          แล้วเจอบีเอของลาเนจอ่ะ เค้าก็เห็นหน้าเราเป็นสิว(แอบแห้งๆ จะหาย) ก็เลยแนะนำเจ้าขวดเขียว
มีชื่อว่า laneige pore trouble spot essence  ก่อนแนะนำก็เลยแต้มที่มือให้เราลอง มันเย็นๆ ดีอ่ะ เราก็ให้เค้าช่วยแนะนำลาเนจตัวอื่นๆ ว่าเป็นไง




          จากนั้นเค้าก็ให้เราลองขวดเขียวที่หน้าอ่ะ แต่ก่อนแต้มอ่ะ เค้าเอาน้ำเปล่าเช็ดเบาๆ ก่อนอ่ะ แล้วแต้มไปที่สิว  แล้วบอกว่า ถ้าดีขึ้นค่อยซื้อก็ได้

ผลเป็นไงล่ะ!??

          กลับบ้านก็ล้างหน้าตามปกติอ่ะ แล้วก็นอน

          เช้าวันต่อมา สิวยุบ แล้วเราก็ลองดูหน้าตัวเอง วันต่อมา ไม่มีอาการแพ้เลยสักนิด เฮ้ยๆๆๆ เป็นไปได้ไง  เมื่อวันพุธก็ไปสอยเจ้าขวดเขียวซะเลย แต่ที่เซ็นทรัลลาดพร้าวอ่ะ พอดีมันมีลด 15%  ราคาเดิม 1030 บาทจ้า

          แล้วก็ใช้ต่ออีกอ่ะ เช้าและเย็น ก็เริ่มยุบลงกว่าเดิมอีก เหลือแต่ผดๆ แล้วอ่ะ  แล้วเอามาแต้มตรงที่คันๆ หน้า ก็ช่วยได้อีก

          สุดท้ายก็จบลงตรงนี้ มันนานแล้วล่ะ เกือบจะปีนึงที่ต่อสู้มากับสิวตอนแรกก็ใช้ set DHC สองเดือนก็หาย บวกกับกินเจ นั่งสมาธิ ด้วย ต่อมาปล่อยมันก็ดีขึ้น แทบไม่เป็นเลยอ่ะ

          แล้วต้นปีสิวมันก็แหกอีก แบบว่าฮอร์โมนวัยรุ่นอ่ะ ตอนเด็กๆ เราแทบไม่มีเลย  เราก็เลยใช้น้ำมันมะพร้าว มีคนแนะนำมาหลายคนอ่ะ  แบบว่ารู้สึกว่า DHC มันแพงอ่ะ (ประหยัดเกิน) แต่ปัญหาคือเรื่องเวลาอ่ะ  ถ้าจะใช้น้ำมันมะพร้าวต้องให้เวลากับมัน แล้วสังเกตว่าพอแนะนำคนอื่นๆ เค้าก็กลัวกัน  แต่มันหาซื้อง่าย คนที่ลองก็โอกับมันอ่ะ

          เราก็เลยลองปล่อยอีกครั้ง แล้วเจอกับมาสก์โกโก้ ตัวนี้หาซื้อยากไปหน่อยสำหรับหลายๆ คน  จนทีนี้เราเลิกละ กะว่าจะหยุดแล้วล่ะ

          จนมันแหกอีกรอบ ก็มาเจอกับชุด พีช สาเก แล้วก็ ลาเนจขวดเขียวเนี่ยล่ะ  ถึงแม้ว่าราคาสูงไปหน่อย แต่คุ้มระยะยาว เพราะว่า ตัดปัญหาเรื่องเวลาด้วยจ้า  แล้วขวดนึง ใช้เฉพาะตอนเป็นสิว ก็ได้นานแหละ

          และสิ่งที่่เราว่าสำคัญที่สุดนะ คือการนั่งสมาธิ ในช่วงที่เราปล่อยผิว  มันทำให้เลือดลมเดินสะดวกขึ้นอ่ะ และก็ลดอาการเซ็ง และรู้สึกดีขึ้น  และเราก็ขอขอบคุณพระอาจารย์ทุกท่านที่ให้คำแนะนำเรื่องสมาธิกับเรา ในเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา สิวก็หาย สมาธิก้อดีขึ้นนะ

จบแล้วค่ะ พอดีบทความนี้ ได้มาจาก acnethai.com ค่ะ จึงนำมาฝากเพื่อนๆ แต่เหมือนกับเป็นบทความจากเว็บ Jeban.com อีกทีนึง จึงขอขอบคุณข้อมูลจากทั้ง 2 เว็บนะคะ 


ถ้าหากท่านเจ้าของบทความต้องการให้ใส่เครดิต สามารถแจ้งมาได้นะคะ จะทำการแก้ไขเครดิตที่มาให้ค่ะ


สำหรับท่านที่สนใจ Skinfood : Peach sake นี้ ลองแวะเข้าไปชมได้นะคะ ที่ ขายเครื่องสำอางค์ เกาหลี
blog comments powered by Disqus